HomeWeb Developmentประเภทของ Requirement ที่มักเจอในการพัฒนา Web Application

ประเภทของ Requirement ที่มักเจอในการพัฒนา Web Application

ในการพัฒนา Web Application เรามักจะเจอ Requirement หลักๆ สองประเภท ได้แก่ Functional Requirements (ข้อกำหนดเชิงฟังก์ชัน) และ Non-Functional Requirements (ข้อกำหนดที่ไม่ใช่เชิงฟังก์ชัน) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของโปรเจกต์

1. Functional Requirements (ข้อกำหนดเชิงฟังก์ชัน)

Functional Requirements คือสิ่งที่เราต้องการให้ระบบ “ทำอะไรได้บ้าง” หรือ “มีฟังก์ชันการทำงานอะไรบ้าง” โดยจะอธิบายถึงพฤติกรรมของระบบในสถานการณ์ต่างๆ และปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานกับระบบอย่างชัดเจน

ตัวอย่าง Functional Requirements ที่พบบ่อย:

ระบบจัดการผู้ใช้งาน (User Management System):

  • ผู้ใช้งานสามารถ ลงทะเบียน (Register) บัญชีใหม่ได้
  • ผู้ใช้งานสามารถ เข้าสู่ระบบ (Login) และ ออกจากระบบ (Logout) ได้
  • ผู้ดูแลระบบสามารถ เพิ่ม (Add), แก้ไข (Edit), ลบ (Delete), และ ดู (View) ข้อมูลผู้ใช้งานได้
  • ผู้ใช้งานสามารถ กู้คืนรหัสผ่าน (Password Recovery) ได้

ระบบจัดการสินค้า (Product Management System):

  • ผู้ดูแลระบบสามารถ เพิ่ม (Add), แก้ไข (Edit), ลบ (Delete), และ ดู (View) ข้อมูลสินค้าได้
  • ผู้ใช้งานสามารถ ค้นหาสินค้า (Search Product) และ กรองสินค้า (Filter Product) ตามหมวดหมู่, ราคา ฯลฯ ได้
  • ระบบแสดง รายละเอียดสินค้า (Product Detail) พร้อมรูปภาพและคำอธิบาย

ระบบตะกร้าสินค้าและการชำระเงิน (Shopping Cart & Payment System):

  • ผู้ใช้งานสามารถ เพิ่มสินค้าลงตะกร้า (Add to Cart), ลบสินค้าออกจากตะกร้า (Remove from Cart), และ แก้ไขจำนวนสินค้าในตะกร้า (Update Quantity) ได้
  • ระบบคำนวณ ราคารวม (Total Price) ในตะกร้าสินค้า
  • ผู้ใช้งานสามารถ เลือกวิธีการชำระเงิน (Select Payment Method) ได้หลากหลาย (เช่น บัตรเครดิต, พร้อมเพย์)
  • ระบบสามารถ ประมวลผลการชำระเงิน (Process Payment) ได้อย่างปลอดภัย

ระบบแสดงผลข้อมูล (Data Display & Interaction):

  • ระบบแสดงข้อมูลในรูปแบบ ตาราง (Table), กราฟ (Chart), หรือ การ์ด (Card) ที่เข้าใจง่าย
  • ผู้ใช้งานสามารถ เรียงลำดับข้อมูล (Sort Data) และ แบ่งหน้า (Paginate) ได้
  • ผู้ใช้งานสามารถ ดาวน์โหลดข้อมูล (Download Data) ในรูปแบบต่างๆ (เช่น CSV, PDF)

ระบบสื่อสาร (Communication System):

  • ผู้ใช้งานสามารถ ส่งข้อความ (Send Message) หรือ แสดงความคิดเห็น (Comment) ได้
  • ระบบสามารถ แจ้งเตือน (Notification) ผู้ใช้งานเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น

2. Non-Functional Requirements (ข้อกำหนดที่ไม่ใช่เชิงฟังก์ชัน)

Non-Functional Requirements คือสิ่งที่อธิบายว่าระบบ “ทำงานได้ดีแค่ไหน” หรือ “มีคุณสมบัติอะไรบ้าง” นอกเหนือจากฟังก์ชันการทำงานหลักๆ มักเกี่ยวข้องกับคุณภาพของระบบ ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ผู้ใช้งาน

ตัวอย่าง Non-Functional Requirements ที่พบบ่อย:

ประสิทธิภาพ (Performance):

  • ความเร็วในการตอบสนอง (Response Time): เช่น หน้าเว็บโหลดเสร็จภายใน 3 วินาทีสำหรับผู้ใช้งาน 90%
  • ความสามารถในการรองรับ (Scalability): ระบบสามารถรองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้ 1,000 คนโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ
  • ปริมาณงานสูงสุด (Throughput): ระบบสามารถประมวลผลคำขอได้ 500 รายการต่อวินาที

ความปลอดภัย (Security):

  • ระบบต้องมีการ เข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) ทั้งในการส่งและจัดเก็บ
  • มีการ ตรวจสอบสิทธิ์ (Authentication) และ การอนุญาต (Authorization) ผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด
  • ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่พบบ่อย (เช่น SQL Injection, XSS)

ความน่าเชื่อถือ (Reliability):

  • ความพร้อมใช้งาน (Availability): ระบบต้องพร้อมใช้งาน 99.9% ของเวลา
  • การกู้คืนจากความผิดพลาด (Disaster Recovery): ระบบสามารถกู้คืนข้อมูลและบริการได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดความผิดพลาด

ความสามารถในการใช้งาน (Usability):

  • ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience – UX): หน้าตาของระบบใช้งานง่าย, เข้าใจง่าย, และเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
  • การเข้าถึง (Accessibility): ระบบสามารถใช้งานได้โดยผู้ใช้งานที่มีความพิการ (เช่น รองรับการอ่านหน้าจอ)
  • ความสอดคล้อง (Consistency): การออกแบบและการทำงานของระบบมีความสอดคล้องกันทั่วทั้งแอปพลิเคชัน

ความสามารถในการบำรุงรักษา (Maintainability):

  • ความสามารถในการแก้ไข (Modifiability): โค้ดของระบบเขียนอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ง่ายต่อการแก้ไขและปรับปรุง
  • ความสามารถในการขยาย (Extensibility): ระบบสามารถเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายในอนาคต

ความเข้ากันได้ (Compatibility):

  • ระบบสามารถทำงานร่วมกับ บราวเซอร์ต่างๆ (Browser Compatibility) (Chrome, Firefox, Safari)
  • สามารถทำงานได้บน อุปกรณ์หลากหลาย (Device Compatibility) (Desktop, Mobile, Tablet)

การทำความเข้าใจทั้ง Functional และ Non-Functional Requirements จะช่วยให้การวางแผนและพัฒนา Web Application เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจได้อย่างแท้จริงครับ

admin
adminhttps://milersoft.com
Developer and Content Creator who shares knowledge in the digital world.

คำแนะนำการฝึกเขียนโปรแกรมยุคใหม่

หัวใจสำคัญคือการเปลี่ยนมุมมองจาก "เราต้องรู้ทุกอย่าง" ไปเป็น "เราต้องรู้ว่าจะใช้เครื่องมือ (AI) ให้ฉลาดที่สุดได้อย่างไร" โดยมีพื้นฐานที่แน่นพอที่จะควบคุมและตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ได้ครับ 🧠 1. ปรับ Mindset: มอง AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่คู่แข่ง สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเปิดใจยอมรับ AI ครับ AI ไม่ได้มาแทนที่เรา แต่มาเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับนักพัฒนา AI คือ Pair Programmer...

แนวทางเขียนโค้ด ReactJS แบบ Production-ready

การเขียนโค้ด ReactJS ให้พร้อมใช้งานจริงในระดับ Production นั้นมีแนวทางและหลักปฏิบัติหลายอย่างที่คุณควรคำนึงถึง เพื่อให้ได้แอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ, บำรุงรักษาง่าย, และปรับขนาดได้ดี ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำแนวทางที่สำคัญพร้อมตัวอย่างให้กับทุกคนได้เข้าใจกันครับ

เหตุผลที่ Dev เลือกใช้ MacBook

ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว MacBook ได้กลายเป็นเครื่องมือคู่ใจของเหล่านักพัฒนาจำนวนมาก ไม่ใช่แค่เพียงสัญลักษณ์ของสถานะทางสังคม แต่เบื้องหลังความนิยมนี้มีเหตุผลที่จับต้องได้มากมาย
- Advertisment -spot_img